ตะลุยแดนเหนือตามล่าออโรรา ณ Tromsø Norway

ในที่สุดก็ถึงเวลาได้ไปล่าแสงเหนือกันแล้ววว ^0^ พี่นิดหน่อยและสามีขับรถมารับเราที่ด้านล่างของจุดชมวิว ก่อนหน้านี้เราได้แนะนำตัวไปว่า เรามาทำวิจัยระยะสั้นที่แบร์เกนซึ่งวิจัยเกี่ยวกับออโรราก็เลยอยากจะมาทัวร์สักครั้ง พี่เขาก็เลยบอกเราว่า ปกติพี่จะจัดทัวร์เป็นกรุ๊ปหลายคนแล้วพาไปยังจุดถ่ายออโรราหลายจุด แต่สำหรับเรา พี่เขาเห็นว่าเรามาทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ พี่เขาก็เลยไม่คิดเงินเรา *≧∇≦* งื้ออออ ตอนนั้นแบบรู้สึกซาบซึ้งใจมาก ๆ เลยยย และพี่เขาอาสาพาเรานั่งรถไปถ่ายรูปแทน ก็คือถ้าเจอออโรราตรงไหนก็จอดรถถ่ายตรงนั้น ซึ่งพี่เขาก็ได้ขับพาข้ามไปหลายเกาะด้วย ตื่นเต้นมากกก และก็ต้องหาจุดที่ค่อนข้างไกลเมืองและมืด ๆ เพื่อที่จะได้สาดแฟลชได้เต็มที่ แต่ตอนที่กำลังขับรถไปน่ะ เชื่อไหม หิมะคือตกหนักมากกก จนเรานี่ก็คิดอยู่ว่า จะได้เจอไหมนะคืนนี้ ;-; แต่พี่เขาก็ดูไม่วอรี่อะไรนะ ก็ขับรถชิวไปเรื่อยๆ เหมือนพาเราขับรถเล่นอ่ะ 5555 ระหว่างทางก็ชวนเราคุยนู้นนี่นั่นแบบเป็นกันเองมาก ทั้งเล่าประสบการณ์การใช้ชีวิตอยู่ที่นี่และการล่าออโรราแต่ละทริปให้เราฟัง สนุกมาก ๆ เลย

ผ่านเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงกว่าๆ หิมะหยุดตกแล้ว เป็นอะไรที่อเมซิ่งมากๆ >O< ในที่สุดก็จะได้ดูออโรราแล้วววว …(*^ヮ^*)… พี่เขาจอดรถตรงโลเคชันที่เห็นว่าโอเค (ก็คือมืดๆ 555) และไม่น่าจะมีรถผ่านมานัก จากนั้นก็เซตอุปกรณ์ คือมีกล้อง ขาตั้ง และตัวสาดแฟลชเข้าที่หน้าเรา เอาจริง ๆ ตั้งแต่ลงรถมา เราก็ยังไม่เห็นออโรราเลย ก็เลยถามพี่เขา พี่เขาก็ชี้ให้ดู เราก็แบบไหนนนนนอ่ะคะพี่ หนูเห็นแต่เมฆ 555 พี่เขาก็เลยบอกว่า โดยปกติถ้าอากาศไม่แจ่มใสพอเราก็จะเห็นออโรราเป็นสีขาวซึ่งถ้าแยกไม่ออกก็จะคิดว่าเป็นเมฆ พี่เขาจึงสอนแยกออโรรากับเมฆ ก็คือให้ดูลักษณะการวางตัวและลักษณะการเคลื่อนที่จะไม่เหมือนกัน เค้าจะคล้ายๆ ผ้าม่านบางๆ สีขาว และจะพลิ้วเร็วมาก บางทีเข้มบางทีจางทันทีทันใด แต่เมฆจะดูหนาๆ ตันๆ ขยับช้ากว่าหน่อย ซึ่งถ้าอยากจะเห็นเป็นสีเขียวในสภาพอากาศแบบนี้คงต้องมองผ่านภาพจากกล้องเท่านั้น ตอนนี้เราก็ถึงบางอ้อออ พอดูเป็นแล้วก็จะรู้ว่าตรงไหนที่ควรจะไปยืนถ่ายรูป 555 แต่ก็อย่างว่า เค้าพลิ้วเร็วมากก หรือบางทีเข้มๆ อยู่ก็จางพรึบ และมีแค่แวบเดียวเท่านั้นที่เรารู้สึกเห็นสีเขียวขึ้นมาหน่อย 5555 ก็ถือว่าดีมากแล้วในสภาพอากาศแบบนี้อ่ะนะ พี่นิดหน่อยก็บอกเราว่า เรานี่ยังถือว่าโชคดีที่มาสองคืนแล้วได้เห็น มีบางคนจัดทริปมา 4-5 วัน แต่ไม่เจอเลยก็มี เราก็แบบโอ้ว จริงเหรอคะ เพราะคิดว่ามายังไงก็น่าจะได้เจอ พอมาถึงจริงๆ ถึงเพิ่งรู้ว่าถ้าสภาพอากาศด้านล่างแย่ก็ไม่สามารถเห็นได้จริงๆ นั่นแหละ

ออโรราที่พยายามแทรกกับกับเมฆ นั่นคือเมฆที่พร้อมหิมะตก 555 (ภาพโดยพี่นิดหน่อย)
อย่างนี้สิ หลังชัดหน้าเบลอ 5555 (ภาพโดยพี่นิดหน่อย)
แง้ น้องหายไปไวมากกก และเมฆทะมึนด้านหลังนั่นน (ภาพโดยพี่นิดหน่อย)

จริงๆ กล้องมือถือที่สามารถปรับโหมด Manual ได้ก็สามารถถ่ายได้นะ โดยปรับให้แสงเข้าให้ได้มากสุดและก็ต้องตั้งกล้องให้นิ่งมากสุดเท่าที่จะทำได้ (อันนี้แหละที่ยาก 555)

ขากลับก็แวะมาถ่ายอีกจุดที่มองไปแล้วเห็นวิวฝั่งที่เราข้ามมา สวยมากๆ มีทั้งแสงเมืองและแสงออโรรา พอเห็นอย่างนั้น เราก็เลยอยากจะลองถ่ายรูปออโรราจากตรงแถวที่พักบ้าง เพราะจริงๆ เมื่อวานเราคงเห็นออโรราไปแล้วถ้าเรารู้วิธีดู 555

ออโรราบนฝั่งที่เราข้ามมา (ภาพโดยพี่นิดหน่อย)
ถ่ายเสร็จถึงรู้ว่ายืนบังออโรรา 55555 (ภาพโดยพี่นิดหน่อย)

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *